
ข่าวบอล โลร็อง เอตาเม่ อดีตดาวเตะของ อาร์เซนอล เผยออกมาว่าเขาไม่เคยเศร้าหมองที่วิ่งเข้าไปผลักรวมทั้งเยาะเย้ย รุด ฟาน นิสเทลรอย ด้านหลังพลาดจุดลูกโทษในเกมที่พวกเขาเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2003 เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 เกมสุดเดือดของทั้งสองกรุ๊ปเริ่มจาก เขวี้ยงทริก วิเอร่า ที่ไปยื่นขาดูถูกเหยียดหยามใส่ นิสเทลรอย จากจังหวะที่เจ้าตัวโดนทำฟาวล์ จนได้รับใบเหลืองลำดับที่สองเป็นแดงไล่ออกจากสนาม นำไปสู่การวุ่นวายขึ้นในเวลาต่อมา ก่อนจะเกมจะเดือดขึ้นไปอีกเมื่อฝั่ง ซาตานแดง เจ้าของบ้านมาได้จุดลูกโทษในนาทีที่ 90+1 จากจังหวะที่นักเตะกรุ๊ปยอดเยี่ยมมีความรู้สึกว่าไม่แน่ชัดนัก แต่เป็นศูนย์หน้าชาวฮอลแลนด์ที่ยิงไปชนคานเต็มๆจนกระทั่งถูกนักเตะฝั่งกรุ๊ปเลิศวิ่งเข้ามาเย้ย และจากนั้นก็เมื่อเสียงนกหวีดเป่าจบเกมดังขึ้น นิสเทลรอย ก็โดนนักเตะของ ปืนใหญ่ ผู้คนจำนวนมากเข้ามารุมผลัก ตบหัว กันอย่างพอใจ อีกครั้ง ด้านหลังจบเกมดังกล่าวยังคงมีการปะทะกันอีกน้อย ทำให้นักเตะทั้งสองกรุ๊ป เป็นฝั่งกรุ๊ปยอดเยี่ยม 6 คน และเจ้าของบ้าน 2 คน ได้รับการลงโทษจากทาง เอฟเอ จากข้อกล่าวหาปฏิบัติไม่เหมาะสม โดย เอตาเม่ เองที่สุดยอดในนักเตะที่เข้าไปผลักและจากนั้นก็เยะเย้ย นิสเทลรอย ด้านหลังจบเกม ก็เห็นด้วยว่าเขาไม่เคยซึมเซากับสิ่งที่เขาทำ ผู้คนมาถามผมหลายหนแล้วว่า ระยะนี้คุณยังจะทำแบบนั้นอีกไหม ผมก็บอกไปตลอดว่าผมทำแน่นอน120% เลย เอตาม่า แถลงการณ์ใน Handbrake Off podcast ผมไม่สนใจเรื่องแบนเลย ค่าชดเชย 40,000 ปอนด์ ผมก็ไม่สนใจ จนกระทั่งผมได้ป้องกันคนที่ผมประสงค์ดี คนที่ใช้ห้องแต่งตัวห้องเดียวกับผม คนที่ผมรัก ผมบอกมาตลอดว่าเมื่อผมย้ายมา อาร์เซนอล ผมมีความคิดว่าพวกเขาเปรียบเสมือนเป็นครอบครัว พวกเราเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม พวกเราพอใจกันและกันทั้งยังในแล้วหลังจากนั้นก็นอกสนาม ผมเลยมีความเห็นว่า อาร์เซน่อล เป็นครอบครัวของผมได้ โดยเหตุนี้ผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคุ้มครองครอบครัวของผม ในเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเกมที่ออกไปเยี่ยม ยูไนเต็ด นี้ ผมรู้สึกว่าผมน่าจะยังจะทำมันทุกปี แม้มันจำเป็นต้องทำ ข่าวบอล